ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำถึง 60-65% และถูกใช้ในการทำงานในระบบต่างๆ เช่น ระบบเลือด สมอง กล้ามเนื้อ ไต ปอด และอื่น ๆ เราเรียนรู้กันมายาวนานว่าการดื่มน้ำจะทำให้สุขภาพดี แต่ทราบหรือไม่ว่า ดื่มน้ำอย่างไรถึงจะหล่อเลี้ยงร่างกายได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าในชีวิตปัจจุบันมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือกเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม แต่ทราบหรือไม่ว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าเดิม เพราะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะทำงานเหมือนสารที่เนี่ยวนำให้เกิดการขับน้ำออกจากร่างกาย ลองสังเกตดูว่าเมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน จะปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง จึงทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
การดื่มน้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ ถึงจะเป็นเครื่องดื่มชนิดที่ไม่มีคาเฟอีน แต่ก็แฝงไปด้วยพลังงานจากน้ำตาล ซึ่งหากดื่มเป็นปริมาณมาก หรือดื่มเป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี เพราะน้ำตาลที่เกินความจำเป็นของร่างกายเป็นสาเหตุของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Noncommunicable diseases หรือ NCDs) เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
วิธีการที่ทำให้สุขภาพดีที่สุด
คือ การดื่มน้ำสะอาด และดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ปริมาณน้ำที่เหมาะสมต่อวันสามารถคำนวนได้จากน้ำหนักตัว ดังต่อไปนี้ ทุก ๆ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักตัว เราต้องดื่มน้ำ 30-35 มิลลิลิตร ซึ่งนอกเหนือจากการคำนวณด้วยน้ำหนักตัว ยังมีปัจจัยอื่นที่สามารถเพิ่มการดื่มน้ำได้ เช่น การเล่นกีฬา สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ผู้ที่มีไข้ ท้องเสีย หรือ อาเจียน
การดื่มน้ำที่ดีควรดื่มปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มาก และไม่น้อยไปในแต่ละชั่วโมง หากมีอาการดังต่อไปนี้ ร่างกายกำลังฟ้องว่ากำลังขาดน้ำ หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- ปากแห้ง ตาแห้ง
- เหนื่อยง่าย
- มึนศีรษะ
- สมองคิดไม่ออก
- ปัสสาวะมีสีเข้ม หรือปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนแสดงอาการเหล่านี้ ควรทำให้การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ทำด้วยความเคยชิน เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี